ทำโฆษณาให้ปัง ด้วยการใช้ Ads Extensions

 

Ads Extensions สุดยอดฟีเจอร์ส่วนขยาย ที่จะส่งโฆษณาให้เตะตา น่าคลิก เพิ่มยอดขายแบบรัวๆ

เช็คกันหน่อย ว่าโฆษณาที่คุณทำอยู่ตอนนี้ มีประสิทธิภาพดีพอหรือยัง? หากยังไม่ดี คุณมองข้ามอะไรไปหรือเปล่า? อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่าง Ads Extensions ก็เป็นไปได้นะ เจ้าฟีเจอร์นี้ ถือเป็นตัวเอกในการทำโฆษณา Google Ads เลยก็ว่าได้ วันนี้ KODSANA.COM ไม่รอช้า ขอพาทุกคนมาทำความรู้จักให้ลึกซึ้งกว่าเดิม สำหรับ Ads Extensions ที่ขอบอกได้คำเดียวว่า คลิกเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

Ads Extensions คืออะไร?

Ads Extensions หรือที่สามารถเรียกได้ง่ายๆ ว่า ส่วนขยายของโฆษณา ก็คือข้อความหรือข้อมูล ที่เพิ่มจากการแสดงโฆษณาพื้นฐานตามปกติ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคนิคของการทำ โฆษณา Google Ads ที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มอัตรการคลิก , เพิ่ม Conversions และ อีกมากมาย ทั้งยังสามารถเพิ่มโอกาสปิดการขายได้อีกด้วย โดยส่วนขยายโฆษณานั้น ก็มีหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการใส่เบอร์โทร ใส่ลิงค์หน้าอื่นๆ ใส่บริการทั้งหมด ใส่คำโฆษณาเพิ่มเติม ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มความสนใจให้กับโฆษณา 

 

รูปแบบของ Ads Extensions มีอะไรบ้าง?

จริงๆ แล้วรูปแบบของ Ads Extensions นั้นมีมากมายถึง 10 กว่าประเภทด้วยกัน แต่เราขอยกตัวอย่าง ส่วนขยายที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมายกตัวอย่างให้ทราบกัน

Sitelinks Extensions

ขอบคุณภาพจาก : support.google.com

Sitelink Wxtension คือ การใส่ URL ของ Landing Page หน้าที่เราต้องการเพิ่มเติมลงไป นอกเหนือจากหน้าหลักที่เรามีอยู่แล้ว ซึ่งมีประโยชน์คือ สามารถนำผู้ใช้ไปยังหน้าเว็บที่เฉพาะเจาะจงในไซต์ของคุณได้ เช่น สั่งซื้อสินค้า และอื่นๆ 

ซึ่งวิธีแสดงผลของส่วนขยายแบบไซต์ลิงค์นั้น ก็สามารถแสดงได้หลายรูปแบบโดยขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ ตำแหน่ง และปัจจัยอีกมากมาย เมื่อส่วนขยายไซต์ลิงค์ปรากฏพร้อมกับหนึ่งในโฆษณาบนคอมพิวเตอร์ โฆษณานั้นจะแสดงลิงค์อย่างน้อย 2 รายการเป็นอย่างต่ำ แต่จะไม่เกิน 6 รายการตามข้อกำหนดของ Google ทั้งนี้ไซต์ลิงค์นั้นอาจจะแสดงรูปแบบไม่เหมือนกันในแต่ละครั้ง เช่น อยู่ในบรรทัดเดียวกันทั้งหมด หรือแยกเป็นสองบรรทัด ก็ตามแต่โฆษณาจะเลือกแสดง

ในส่วนข้อดีของ Sitelinks Extensions ก็คือการที่เราสามารถพาผู้ชมเว็บไซต์ ไปยังหน้าที่พวกเขาต้องการได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องผ่านหน้าแรก หรือหน้าที่คุณเลือกเป็น Landing Page แถมยังเป็นการเพิ่มรายละเอียดที่มากขึ้นให้กับโฆษณาอีกด้วย ที่สำคัญคือส่วนขยายนั้นสามารถเปลี่ยนแปลง อัพเดทได้อย่างง่ายดาย ไม่ทำให้คุณต้องเสียเวลาไปสร้างโฆษณาใหม่ให้ยุ่งยากกวนใจ

Call Extensions 

ขอบคุณภาพจาก : instapage.com

 

Call Extensions หรือส่วนขยายการโทร ก็จัดเป็นชื่อเรียกตรงตัว ไม่มีอะไรซับซ้อน หมายถึง ผู้ชมเว็บไซต์ สามารถกดโทรหาธุรกิจได้จากตัวโฆษณาทันที สำหรับส่วนขยายการโทรนั้น จะเหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องมีการนัดหมายก่อน เช่น คลินิคเสริมความงาม , ร้านอาหาร หรือจะเป็นธุรกิจอื่นๆ ก็ได้ ที่ต้องการให้ลูกค้าโทรเข้ามาทันที

วิธีการทำงานของส่วนขยายการโทรนั้น จะแสดงเบอร์โทรธุรกิจไปพร้อมกับโฆษณา ซึ่งผู้ใช้จะสามารถกดโทรออกได้จากตรงนั้นได้เลย และไม่ต้องกังวลใจไปว่า แบบนี้ลูกค้าอาจจะโทรมา 24 ชั่วโมง จนไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลยสิ? จริงๆ แล้วเราสามารถตั้งค่าได้ ว่าให้แสดงเบอร์โทรเฉพาะเวลาทำการของธุรกิจนั้นๆ หมดห่วงเรื่องพลาดลูกค้าคนสำคัญไปได้เลย

ข้อดีของส่วนขยายการโทร ก็คือ เป็นเครื่องมือวัด Conversion ที่ใช้งานง่าย สามารถนับการโทรเป็น Conversion ได้ง่ายๆ โดยเปิดใช้การรายงานจำนวนการโทรเข้าในบัญชีได้อย่างง่ายดาย

Callout Extensions 

ขอบคุณภาพจาก : searchengineland.com

Callout Extensions หรือที่เรียกว่าส่วนขยายไฮไลท์นั้น คือการที่เราใส่คำโฆษณาสั้นๆ แต่สามารถเน้นย้ำข้อความที่เราต้องการสื่อได้ โดยสามารถดัดแปลงเพื่อใส่ข้อความที่เราต้องการได้ สามารถใส่ได้ 25 ตัวอักษร เช่น สินค้าลดราคา , ขายถูกกว่าเจ้าอื่น 

คุณสามารถใส่ไฮไลท์ได้ที่ระดับบัญชี แคมเปญ หรือกลุ่มโฆษณา โดยสามารถเลือกว่าจะใส่ไฮไลต์ที่ไหน สร้างข้อความไฮไลท์ และตั้งเวลาที่ต้องการให้แสดง ลำดับของไฮไลต์ ความยาว และประสิทธิภาพการทำงานล้วนแล้วแต่มีผลต่อจำนวนไฮไลท์ที่จะแสดงนั่นเอง

 

สำหรับข้อดีของส่วนขยายไฮไลท์ ก็เห็นได้ชัดเจนง่ายๆ เลยก็คือ สามารถเน้นสิ่งที่ธุรกิจนำเสนอ

โปรโมตธุรกิจโดยนำเสนอแง่มุมที่ไม่เหมือนใครและได้รับความนิยม แต่มีจุดเด่นคือใช้คำเพียงสั้นๆ เท่านั้น ไม่ต้องเสียเวลาคิดคำยาวๆ อีกประโยชน์เลยก็คือ ส่วนขยายชนิดนี้มีความยืดหยุ่นสูง และปรับแต่งได้อย่างง่ายดาย โดยคุณสามารถเลือกได้ ว่าจะใส่ข้อความไปที่แคมเปญของโฆษณา หรือจะใส่ในระดับกลุ่มโฆษณา 

Structured Snippets Extensions 

ขอบคุณภาพจาก : adespresso.com

Structured Snippets Extensions คือการแบ่งประเภทของสินค้าและบริการ หรือจะแบ่งเป็นแบรนด์ก็ได้ เหมาะสำหรับเว็บไซต์ ที่มีสินค้าและบริการหลากหลายรุ่น

ซึ่งประเภทของส่วนขยายนี้ คุณสามารถเลือกได้มากมายเลย เช่น บริการ แบรนด์ ประเภท ปลายทาง ย่านใกล้เคียง รุ่น โรงแรมเด่น สไตล์ สิ่งอำนวยความสะดวก หลักสูตร หลักสูตรปริญญา ฯลฯ

ข้อดีของส่วนขยายแบบ Structured Snippets นั้น ก็คือผู้เข้าชมเว็บไซต์ สามารถทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าที่พวกเขาต้องการได้ทันที ยกตัวอย่างเช่น คุณขายรถยนต์ แทนที่ลูกค้าจะเข้าหน้าแรก ไปเพื่อค้นหาถึงรุ่นรถยนต์ที่เขาต้องการ แต่พวกเขาสามารถเจอรถรุ่นที่ต้องการทันที ได้จากหน้าโฆษณาได้เลย ซึ่งตรงส่วนนี้ก็จะทำให้ช่วยเพิ่มอัตราการคลิกได้อีกด้วย เนื่องจากลูกค้าเจอในสิ่งที่พวกเขาต้องการ จึงคลิกเข้ามาชมเว็บไซต์

Location Extensions 

ขอบคุณภาพจาก : blog.adamowen.co.uk

Location Extensions หรือที่เรียกว่าส่วนขยายที่ตั้งนั้น ก็ทำงานได้ตรงตัวตามชื่อของมัน 

ช่วยให้ลูกค้าพบที่ตั้งธุรกิจของคุณได้ด้วยการแสดงโฆษณาพร้อมกับที่อยู่ แผนที่มายังสถานที่ตั้ง หรือระยะทางมายังธุรกิจ จากนั้นลูกค้าสามารถคลิกหรือแตะส่วนขยายเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ตั้งในหน้าสถานที่ตั้งของคุณซึ่งรวบรวมข้อมูลทางธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องมากที่สุดทั้งหมดไว้ในที่เดียว เหมาะกับสถานที่ ที่มีหน้าร้าน บอกที่ตั้ง เมื่อคลิกเข้ามา จะเชื่อมต่อกับ Google Maps แสดงที่ตั้งได้อย่างรวดเร็ว

 

Price Extensions 

ขอบคุณภาพจาก : help.ads.microsoft.com

ส่วนขยายในการช่วยบอกราคาของสินค้าและบริการที่ลูกค้าทำการค้นหาจากคีย์เวิร์ดสินค้าหรือบริการนั้นๆ ซึ่งจะแสดงราคาและรายละเอียดมากับโฆษณาและสามารถนำลูกค้าไปยังเว็บไซต์ที่ค้นหาได้โดยตรงทันที

ซึ่งหน้าที่ของส่วนขยายราคาคือนำเสนอ หลากบริการของคุณที่มี มีลักษณะคือจะแสดงสิ่งที่ธุรกิจนำเสนอในรูปแบบเชิงโต้ตอบที่ผู้ใช้สามารถเลื่อนดูได้ ซึ่งตรงนี้จะเป็นประโยชน์มาก เพราะเป็นเหมือนทางลัด ที่สามารถทำให้เกิด Conversions ได้อย่างง่ายดาย

ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นเจ้าของร้านทำผม คุณอาจใส่ส่วนขยายราคาทั่วไปสำหรับบริการอย่าง “การตัดผม” “ทำสีผม” และ “ทำทรีทเมนต์” ลงในแคมเปญที่ใช้คำหลักกว้างๆ หรือคุณจะใส่ส่วนขยายลงในกลุ่มโฆษณาที่มีการกำหนดเป้าหมายแคบลงมาก็ได้ เช่น กลุ่มโฆษณา “สีผม” อาจมีส่วนขยายอย่าง “ทำไฮไลต์” “ทำสีทั่วศีรษะ” “ทำสีทั้งศีรษะ + ปรับสภาพผม” และ “เคลือบผมกึ่งถาวร” ส่วนขยายทำให้ผู้ใช้พอเห็นภาพว่าธุรกิจของคุณนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการมากน้อยเพียงใด

เป้าหมายของ Ads Extensions 

แน่นอนว่าการใช้ Ads Extensions หรือ ส่วนขยายโฆษณานั้น เราไม่ได้เพียงใช้เฉยๆ เพื่อเป็นส่วนประกอบของโฆษณา แต่เราย่อมมีจุดประสงค์ของการใช้ เพื่อให้ตอบโจทย์กับธุรกิจอย่างสูงสุด หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะใช้ส่วนขยายเพื่ออะไรดี วันนี้เรามีตัวอย่างเป้าหมาย พร้อมแนะนำส่วนขยาย ที่ทำให้คุณสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย

ทำให้ลูกค้าติดต่อเข้ามา

เพราะการติดต่อจากผู้ชมเว็บไซต์นั้นนั้น เป็นเหมือนการเพิ่มโอกาสเปลี่ยนพวกเขา ให้กลายเป็นลูกค้าคนสำคัญ และยังเพิ่มโอกาสปิดการขายได้มากขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญคือทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งหากคุณมีเป้าหมายที่ต้องการให้ลูกค้าติดต่อเข้ามานั้น การใช้ Ad Extensions ประเภท ส่วนขยายการโทร และ ส่วนขยายข้อความ ก็จะสามารถช่วยตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย เพราะส่วนขยายการโทร จะกระตุ้นให้ผู้ชมเว็บไซต์โทรหาธุรกิจของคุณได้ง่ายขึ้น ด้วยการใส่หมายเลขโทรศัพท์หรือปุ่มโทรลงในโฆษณา อีกประเภทคือ ส่วนขยายข้อความ ก็ยังสามารถกระตุ้นให้ผู้คนส่งข้อความหาคุณจากโฆษณาได้อีกด้วย

 

ทำให้เกิด Conversion ในเว็บไซต์

แน่นอนว่าอีกประโยชน์ของการใส่ Ads Extensions นั้น ก็คือสามารถเพิ่ม Conversions ให้กับการทำโฆษณา Google Ads ได้ หากคุณต้องการให้ลูกค้าเกิดการกระทำต่อเว็บไซต์ของคุณ ให้ลองใช้ ส่วนขยายไซต์ลิงค์ เพื่อส่งว่าที่ลูกค้า ไปที่หน้าเว็บเจาะจงบนเว็บไซต์ของคุณโดยตรง เช่น หน้าสั่งซื้อสินค้า หรือหน้าสินค้าแบบเจาะจง หรือสามารถลองใช้ ส่วนขยายไฮไลท์ ใส่ข้อความเพิ่มเติมลงในโฆษณา เช่น “จัดส่งฟรี” หรือ “บริการลูกค้า 24 ชม. ทุกวัน” อีกส่วนขยายที่สำคัญ ก็คือ ส่วนขยายข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งสามารถ แสดงข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์กับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ามากที่สุดด้วยการเลือกส่วนหัวที่กำหนดล่วงหน้า สุดท้ายก็คือ ส่วนขยายราคา ที่มีความสามารถคือ แสดงหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์หรือบริการพร้อมราคาเพื่อให้ลูกค้าสามารถเรียกดูผลิตภัณฑ์ของคุณได้โดยตรงจากโฆษณา

ทำให้ลูกค้าเดินทางมายังที่ตั้งของธุรกิจ

แน่นอนว่าในบางธุรกิจ ที่แม้คุณจะทำการตลาดทางออนไลน์ แต่หน้าร้านของคุณก็ยังไม่ได้สามารถปิดการขายได้อย่างทันทีบนเว็บไซต์ หรือรูปแบบธุรกิจเป็นลักษณะของการบริการ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร แน่นอนว่าคุณต้องใช้ ส่วนขยายที่ตั้งอย่างแน่นอน เพราะมันสามารถ แนะนำให้ผู้คนไปเยี่ยมชมธุรกิจของคุณด้วยการแสดงสถานที่ตั้ง ปุ่มโทร และลิงค์ไปยังหน้ารายละเอียดธุรกิจ ซึ่งอาจมีข้อมูลเวลาทำการ รูปภาพธุรกิจ และเส้นทางไปยังธุรกิจ ดังนั้นธุรกิจไหนที่มีหน้าร้านนั้น การใช้โลเคชั่นคอยแนะนำเส้นทาง ก็สามารถเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า และสร้างโอกาสการปิดการขายนั่นเอง

การใช้ Ads Extensions อย่างมีประสิทธิภาพ

ใช้เท่าที่จำเป็น

ด้วยความที่ Ads Extensions นั้นมีหลายประเภทมาก ดังนั้นคุณจึงไม่จำเป็นจะต้องนำส่วนขยายทุกประเภท มาใส่ลงในโฆษณา 1 ตัว ให้รกรุงรังไปหมด แต่ให้เลือกเฉพาะที่เหมาะสมกับธุรกิจคุณจริงๆ หรือตั้งจุดประสงค์ไว้เลย เช่น หากคุณทำธุรกิจร้านอาหาร ส่วนขยายการโทรอาจจะมีประโยชน์สำหรับธุรกิจของคุณ หรือเป้าหมายของคุณอยากให้ลูกค้าคลิกเข้ามาเยอะๆก่อน ส่วนขยายไฮไลท์น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเว็บไซต์ของคุณไม่น้อยเลยทีเดียว

ใช้ให้เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ด

หนึ่งข้อสำคัญที่ต้องจำให้ขึ้นใจ ว่าการทำโฆษณาทุกอย่าง จำเป็นอย่างมากที่จะต้องเกี่ยวข้อง มีความสัมพันธ์กับคีย์เวิร์ด เนื่องจากจะเพิ่มโอกาสให้เกิดอัตราการคลิกที่สูงขึ้น รวมถึงผู้ชมเว็บไซต์รู้สึกได้ว่า พวกเขาในสิ่งที่พวกเขาต้องการค้นหา หรือสิ่งที่พวกเขาค้นหานั้น ตัวโฆษณามีความเกี่ยวข้องกันดี จึงตัดสินใจคลิกโฆษณาตัวนั้นอย่างรวดเร็ว

ควรใส่คำหลักให้ครบให้ประเภทนั้นๆ

การใช้ Ads Extensions นั้น เราขอแนะนำอีกข้อสำคัญก็คือ ไม่ว่าจะเป็นส่วนขยายประเภทไหนก็ตามแต่ แต่คุณควรที่จำใส่ข้อมูลให้ครบตามช่องว่างที่ทาง Google ให้มา เช่น ใส่ Sitelinks Extension ให้ครบ 4 ช่องทางที่กำหนด แม้บางที Goole จะแสดงส่วนขยายของคุณไม่ครบก็ตามที แต่การใส่ข้อมูลไปเยอะๆ นั้น จะสามารถทำให้ระบบมีทางเลือกที่เยอะขึ้น และส่งผลให้ ระบบสามารถแสดงผลลัพธ์ ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย ได้อย่างแม่นยำ

 

สรุป

Ads Extensions ก็คือส่วนขยายของโฆษณาใน Google Ads ที่จะสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลของโฆษณา สามารถเติมเต็มให้โฆษณาดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาให้ดียิ่งขึ้น เช่น เพิ่มอัตรการคลิก เพิ่มการกระทำ เพิ่มยอดขาย

ทั้งนี้หากคุณทำความรู้จัก Ads Extensions ครบทุกประเภทแล้ว ก็อย่าด่วนตัดสินใจที่จะเลือกใช้ส่วนขยายทั้งหมด มาใส่ในโฆษณาของคุณ แต่ให้เลือกอันที่เหมาะสมกับธุรกิจ หากไม่รู้ว่าควรเลือกใช้อันไหนบ้างดี ให้ลองตั้งเป้าหมายของธุรกิจ ว่าต้องการอะไรจากลูกค้า เช่น ยอดขาย , จำนวนคนโทรมาสอบถามข้อมูล ก็จะทำให้คุณเลือกใช้ส่วนขยายโฆษณาได้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้นนั่นเอง